การให้ทุนสนับสนุนการตรวจทานภาษาอังกฤษ (Manuscript) เพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ

ประกาศ เรื่อง การให้ทุนสนับสนุนการตรวจทานภาษาอังกฤษ (Manuscript) เพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ

1.คุณสมบัติของผู้ขอรับการสนับสนุน

    ผู้ขอรับการสนับสนุนจะต้องเป็นบุคลากรประจำของมหาวิทยาลัยนครพนม ที่มีอายุงานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือนโดยมีบทความวิจัย (research articles) หรือบทความปริทัศน์ (review articles) จะนำไปตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติที่ปรากฏอยู่ในฐานข้อมูล Scopus หรือ Web of Science (SCIE, SSCI, AHCI) หรือ ประกาศ ก.พ.อ. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ พ.ศ. 2564

2. เกณฑ์การพิจารณาสนับสนุน

2.1 เป็นผลงานที่ทำระหว่างปฏิบัติงานที่มหาวิทยาลัยนครพนม โดยมีที่อยู่ของมหาวิทยาลัย

นครพนมในบทความนั้น

2.2 ไม่เป็นผลงานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจบการศึกษาเพื่อรับปริญญาหรือวุฒิบัตรใดๆ ของ

ผู้ขอรับการสนับสนุน

2.3 ผู้เสนอขอรับทุนสนับสนุนต้องเป็นผู้จัดทำบทความต้นฉบับ (Corresponding author) หรือ ผู้เป็นชื่อแรก (first author) ในบทความนั้น

3. อัตราค่าใช้จ่ายในการสนับสนุน

ทุนสนับสนุนการตรวจทานภาษาอังกฤษ จะเบิกจ่ายจากงบประมาณเงินรายได้ ของสถาบันวิจัยและพัฒนา ในอัตราตามที่จ่ายจริง ทั้งนี้ไม่เกิน 5,000 บาทต่อบทความ จำนวน 20 ทุน ภายใต้โครงการประกอบแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2568 ชื่อโครงการโครงการบ่มเพาะนักวิจัยใหม่ นักวิจัยรุ่นกลาง และนักวิจัยอาวุโส อาชีวะต่อเนื่อง (คุณภาพข้อเสนอโครงการควบคู่กับการพัฒนาบทความวิจัยระดับชาติ นานาชาติ) กิจกรรมย่อย การให้ทุนสนับสนุนการตรวจทานภาษาอังกฤษ (Manuscript)เพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ โดยให้ทุนสนับสนุนในปีงบประมาณ 2568 

4. การยื่นขอ และวิธีการดำเนินการ

4.1 ผู้ขอรับการสนับสนุนจัดส่งเอกสาร เพื่อการรับการสนับสนุนทุนในการตรวจทานภาษาอังกฤษ ประกอบด้วย 

4.1.1 บันทึกข้อความจากต้นสังกัด

4.1.2 ต้นฉบับบทความภาษาอังกฤษ (Manuscript) ให้กับผู้รับตรวจทาน

4.1.3 ใบเสร็จรับเงินจากสถาบัน หรือ หน่วยงานที่ส่งตรวจ โดยใบสำคัญรับเงินระบุที่อยู่และเลขประจำตัวเสียภาษีของมหาวิทยาลัยนครพนม พร้อมวงเล็บ ชื่อ-สกุล ต้นสังกัดของผู้ขอรับการสนับสนุน

4.1.4 ผู้ขอรับการสนับสนุนจัดส่งเอกสาร ภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2568 

5. กรณีมีปัญหาการตีความ ให้อธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม เป็นผู้วินิจฉัยและถือเป็นที่สุด